สร้างประสบการณ์ใหม่ๆเพื่อดิจิทัลแห่งโลกอนาคต

โดย ซังโฮ โจ ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย

“ปี 2565 เป็นช่วงที่ประเทศต่างๆ เริ่มกลับมาเปิดพรมแดน และการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยี เรามุ่งมั่นเดินหน้าโดยมีผู้ใช้เป็นหัวใจหลัก พร้อมวางรากฐานดิจิทัลแห่งโลกอนาคตให้กับผู้บริโภคและพันธมิตรของเรา ตลอดจนทุกๆ คนในภูมิภาคนี้” ซังโฮ โจ ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย กล่าว

โควิด-19 เป็นปัจจัยกระตุ้นและเร่งพัฒนาชีวิตดิจิทัล และเมื่อโควิดได้กลายเป็นสิ่งปกติไปแล้วนั้น ความต้องการการวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนความเปลี่ยนแปลงในเรื่องไลฟ์สไตล์ทำให้ผู้บริโภคมองหาประสบการณ์ดิจิทัลที่ไม่เหมือนใคร ที่มีทั้งความสะดวกสบายและการปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ

เปิดทางสู่ชีวิตดิจิทัลที่ฉลาดขึ้นกว่าที่เคย

จากความคาดหวังที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ว่าอุปกรณ์และบริการดิจิทัลต่างๆ ควรทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อเพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ ความชื่นชอบ และความจำเป็นของแต่ละบุคคล ซัมซุงจึงยิ่งมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์และบริการที่จะตอบสนองความคาดหวังของผู้บริโภคและองค์กรต่างๆ ในช่วงหลังสถานการณ์โรคระบาดได้ดียิ่งขึ้น

ในปัจจุบันบ้านได้กลายเป็นพื้นที่สำหรับการใช้งานหลากหลายอย่าง มีการนำเอาเทคโนโลยีต่างๆ ที่ทั้งฉลาดและสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบมารวมไว้ด้วยกันเพื่อสร้างสรรค์พื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นมุมทำงาน พื้นที่ออกกำลังกายหรือศูนย์กลางความบันเทิงในบ้าน เป็นต้น โดยที่ทั้งหมดอยู่ภายในพื้นที่เดียวกัน ทุกวันนี้อีโคซิสเต็มของอุปกรณ์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ อาทิ สมาร์ทโฟน Galaxy สมาร์ทมอนิเตอร์และสมาร์ททีวี กลายเป็นเครื่องมือที่มีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการสร้างผลิตและทำสิ่งต่างๆ ร่วมกัน ในขณะเดียวกัน SmartThings และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะในบ้านก็ช่วยให้ผู้ที่มีภารกิจรัดตัวสามารถสั่งให้อุปกรณ์ต่างๆ ทำงานบ้านให้โดยอัตโนมัติได้อย่างไร้รอยต่อด้วยการสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟน Galaxy ของตน

เพื่อประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อและความเฉพาะบุคคลอย่างแท้จริง ซัมซึงได้สร้างสรรค์อีโคซิสเต็มที่เปิดกว้างและยอมรับความแตกต่าง ผู้ใช้สามารถผสานอุปกรณ์ซัมซุงของตนให้ทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์จากพันธมิตร เป็นการมอบโอกาสเพื่อการสร้างสรรค์และให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับความเป็นไปได้มากมายอย่างไร้ที่สิ้นสุด

สร้างสรรค์เส้นทางใหม่สู่การเป็นลูกค้า

ช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมาทำให้ซัมซุงคิดทบทวนใหม่ว่าจะสามารถตอบสนองลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นและทำให้อุปกรณ์และบริการเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้มากยิ่งขึ้นได้อย่างไร โควิด-19 เร่งการเติบโตของอี-คอมเมิร์ซ โดยได้ทำให้การช้อปปิ้งออนไลน์กลายเป็นเรื่องจำเป็น และในขณะเดียวกันในอนาคตที่นับวันจะยิ่งสอดคล้องกันทั่วโลก การแชร์สิ่งต่างๆ ในสื่อโซเชียลที่กลายเป็นพฤติกรรมของผู้บริโภค ยังกระตุ้นให้ซัมซุงรุกคืบไปสู่การนำเสนอประสบการณ์ใหม่ต่อแบรนด์และการค้าปลีก

ด้วยเหตุนี้ซัมซุงจึงมุมานะขึ้นเป็นสองเท่าในการขยายและปรับปรุงช่องทางและประสบการณ์ค้าปลีก ปัจจุบันผู้บริโภคสามารถสัมผัสกับประสบการณ์และซื้อหาอุปกรณ์ต่างๆ ได้โดยตรง ทั้งจากร้านค้าออนไลน์ของซัมซุงและผ่านการช้อปปิ้งออนไลน์กับพันธมิตร หรือแม้แต่การซื้อขายผ่านการไลฟ์สด (Live Commerce)

นอกจากนี้ยังได้ลงทุนสร้างสรรค์วิธีการใหม่ๆ ที่สร้างประสบการณ์ร่วมเพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์จากผลิตภัณฑ์ทั้งในแบบออนไลน์และออฟไลน์ ยกตัวอย่างเช่น การเปิดตัวความสามารถต่างๆ ที่ใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสริม (Augmented Reality) เพื่อให้สามารถจินตนาการได้ดียิ่งขึ้นว่าเครื่องใช้ในบ้านต่างๆ จะผสานตัวอยู่ในบ้านอย่างไร ซึ่งทำให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจที่จะซื้อผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางออนไลน์ และเป็นการช่วยวางแผนการจัดสรรพื้นที่ให้กับเจ้าของบ้านที่เคยได้เยี่ยมชมโชว์รูมค้าปลีกมาแล้ว

มอบพลังให้กับคนรุ่นใหม่

ซัมซุงเล็งเห็นถึงความสำคัญของเยาวชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีจำนวนเยาวชนมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรที่เป็นเยาวชนทั่วโลก[1] จึงสานต่อความพยายามในการทำความเข้าใจและตอบสนองต่อค่านิยม ความมุ่งมาดปรารถนา และความจำเป็นของพวกเขา เยาวชนเหล่านี้เป็นชาวดิจิทัลโดยกำเนิด พวกเขาจึงเป็นผู้ที่กำลังสร้างสภาวะที่เหมาะสมที่สุดของอุปกรณ์ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต พร้อมกับขับเคลื่อนบริการออนไลน์ต่างๆ เพื่อสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล ทั้งในฐานะผู้บริโภคและผู้สร้างนวัตกรรม

ในฐานะผู้ที่สนับสนุนนวัตกรรมอย่างแข็งขัน จึงต้องการทุ่มเทให้มากยิ่งขึ้นเพื่อมอบพลังแก่คนยุคถัดไปผ่านเทคโนโลยีและโครงการต่างๆ และบรรลุผลสำเร็จดังกล่าว โดยหลายๆ โครงการที่มอบเครื่องมือที่จำเป็นที่จะช่วยสร้างโอกาสให้กับเยาวชนได้อย่างเหมาะสมที่สุด พร้อมกับนำเอาพลังและข้อมูลเชิงลึกของพวกเขามาใช้ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการต่อไป

เช่น ทีมงาน Future Generation Lab ประกอบด้วยพนักงานคนรุ่นใหม่ที่ต่างทำงานกันอย่างแข็งขันในการพัฒนาคอนเทนต์การตลาดและความร่วมมือใหม่ๆ ที่น่าดึงดูดใจเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคกลุ่มชาวมิลเลนเนียลและ Gen Z ให้มากยิ่งขึ้น, โครงการ Samsung Innovation Campus ที่ฝึกอบรมทักษะด้านเทคโนโลยีข้อมูลและการสื่อสารตลอดจนทักษะพื้นฐานในการใช้ชีวิตและอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคม (Soft Skills) แก่เยาวชน และโครงการ Solve for Tomorrow ที่เป็นการแข่งขันที่ส่งเสริมให้นักเรียนนักศึกษาสร้างสรรค์โซลูชั่นที่เป็นรูปธรรมช่วยแก้ปัญหาทางสังคมได้ ในปี 2564 มีนักเรียนนักศึกษาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียเข้าร่วมโครงการนี้กว่า 80,000 คน

ซัมซุงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย มุ่งมั่นทุ่มเทเพื่อเป็นแบรนด์ที่ได้รับความเชื่อถือในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ๆ ทั้งเพื่อการทำงาน การพักผ่อนหย่อนใจ และการเรียนรู้ ตลอดจนทุกๆ เรื่องที่แทรกอยู่ระหว่างสิ่งเหล่านี้ ในช่วงที่เหลืออยู่ของปี 2566 นี้ต่อเนื่องไปในอนาคต ซัมซุงจะเดินหน้าขยับพรมแดนออกไปให้กว้างไกลยิ่งขึ้นและคว้าโอกาสใหม่ๆ โดยการทำงานร่วมกับพันธมิตรอย่างใกล้ชิดเพื่อมอบพลังให้แก่ชุมชนชนต่างๆ ที่ดำเนินงานอยู่

[1]โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP), รายงานการพัฒนามนุษย์ในภูมิภาคประจำปี 2016

:

ข่าวประชาสัมพันธ์CEO Byline
โปรแกรมค้นหาเวอร์ชันล่าสุด